ปัจจุบันการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตมีประโยชน์อย่างมาก จึงทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างแพร่หลาย บุคคลที่ใช้อินเทอร์เน็ตจึงมีหลายจุดประสงค์ ทั้งใช้งานในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และการใช้งานที่เป็นผลร้ายต่อบุคคลอื่น นายปริญญา หอมอเนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ ได้ให้ความเห็นว่าต้องระมัดระวัง กลุ่มผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ตในระดับองค์กร สถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุด และเป็นกลุ่มที่เสี่ยงกับการโจมตีโดยผู้ไม่หวังดี เพื่อล้วงเอาข้อมูลลับ ทำลายระบบคอมพิวเตอร์ หรือถ้าโชคร้ายพวก Cracker อาจจะใช้คอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตขององค์กรหรือสถาบัน ในการเป็นฐานในการส่งแพร่กระจายไวรัสในหน่วยงานเอง หรือแม้กระทั่งแพร่กระจายส่งออกไปภายนอกองค์กร ซึ่งเป็นการกระทำความผิดกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบนอินเทอร์เน็ต
การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย
• อ่านข้อตกลง นโยบายให้ดีก่อนตอบตกลงใด ๆ
• ระวังการใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ
แอบดูการใช้งาน
หลีกเลี่ยงการใส่ข้อมูลสำคัญมาก ๆ
ไม่ให้ระบบช่วยจำ username และ password
• หมั่นเปลี่ยน password บ่อย ๆ
• หมั่นลบ temporary internet files, cookies และ history
• Logoff หรือ logout ทุกครั้งหลังใช้งาน
วิธีเพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้อินเตอร์เน็ต
1. อย่าให้รหัสลับแก่ผู้อื่น
2. ต้องคิดให้ดีทุกครั้ง ที่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่นในอินเทอร์เน็ต
3. ตรวจทานว่าได้พิมพ์ชื่อเว็บไซด์ถูกต้องเสียก่อน แล้วจึงกด Enter เพื่อจะได้เข้าเว็บไซด์ที่ต้องการได้ถูกต้อง
4. ถ้าพบเห็นข้อความ หรือสิ่งใด ที่ไม่เหมาะสม หรือ คิดว่าไม่ดีต่อการใช้อินเทอร์เน็ต ควรออกจากเว็บไซด์นั้น 5. อย่าส่งรูปภาพของตนเอง หรือรูปภาพของผู้อื่น ให้คนอื่นทางอีเมล์
6. ถ้าได้รับอีเมล์ที่มีข้อความไม่เหมาะสม หรือทำให้ไม่สบายใจ ไม่ควรโต้ตอบ
7. บนอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างที่คุณเห็นไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป
8. อย่าบอกวันเดือนปีเกิด หรือ อายุจริงของคุณกับคนอื่น
9. อย่าบอกชื่อจริง และนามสกุลจริงกับบุคคลอื่น
10. อย่าบอกที่อยู่ ของคุณกับบุคคลอื่น
11. อย่าบอกเบอร์โทรศัพท์ของคุณกับบุคคลอื่น ในอินเตอร์เน็ต
12. จะทำการลงทะเบียนใด ๆ บนอินเทอร์เน็ต ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
13. อย่าให้หมายเลขของบัตรเครดิตการ์ดของคุณกับบุคคลอื่น
14. ใช้ชื่อที่ต่างจากชื่อจริง และชื่อเล่นของตัวเองเพื่อใช้แทนตัวเอง ในขณะใช้อินเทอร์เน็ต
15. อย่าบอกชื่อ ที่อยู่ของโรงเรียนของคุณ กับบุคคลอื่นบนอินเทอร์เน็ต
16. ขณะที่ใช้อินเตอร์เน็ต ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา คุณสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
และไม่ทำในสิ่งที่ไม่ต้องการได้
17. อย่าเปิดเอกสารหรืออีเมล์หรือไฟล์ จากบุคคลอื่นที่ไม่รู้จัก เพราะอาจมีไวรัส หรือข้อมูลไม่เหมาะสม
มากับเอกสารหรืออีเมล์นั้น
18. อย่าตัดสินใจที่จะไปพบบุคคลอื่นซึ่งรู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต
19. บนอินเทอร์เน็ตข้อมูลต่าง ๆ ที่เราพิมพ์ลงไป บุคคลอื่นที่เราไม่รู้จักสามารถล่วงรู้ได้ ควรใช้อย่างระวัง
20. ไม่ควรให้อีเมล์แอดเดรสกับบุคคลอื่นในอินเทอร์เน็ต
21. ถ้ามีบุคคลอื่นที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป ไม่ควรให้ข้อมูล
และควรหยุดการสนทนานั้น
22. ขณะใช้อินเทอร์เน็ตไม่ควรเชื่อคำพูดหรือข้อมูลของบุคคลอื่น เพราะการปลอมตัวทำได้ง่าย
และอาจไม่เป็นความจริง
23. อย่าทำสิ่งผิดกฎหมายบนอินเตอร์เน็ต เช่น ถ้าไม่เคยใช้บัตรเครดิต ก็ไม่ควรกรอกข้อมูลในการซื้อของ
โดยใช้บัตรเครดิต บนอินเตอร์เน็ต
24. อย่าใช้คำไม่สุภาพ ขณะใช้อินเตอร์เน็ต
25. คุณสามารถออกจากอินเตอร์ได้ด้วยตัวเอง ถ้าไม่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ต
ในปัจจุบันการใช้ Social Network นับเป็นการสื่อสารหรือสังคมออนไลน์ที่เริ่มมีความนิยมมากขึ้น ดังนั้นการใช้สื่อหรือเครื่องมือในการสื่อสารประเภทนี้ จึงต้องให้ความสำคัญและควรตระหนักอยู่เสมอถึงความระมัดระวังในการใช้ Social Network ว่าเราควรใช้กันอย่างไรถึงจะปลอดภัย
- ไม่ควรระบุข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป
ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญเหล่านี้ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการระบุตัวตนที่สำคัญอันหนึ่งทีเดียว ควรพึงระวังอย่างยิ่ง หากเราเปิดเผยข้อมูลมากเท่าไหร่ ภัยร้ายก็จะเข้าใกล้ตัวเรามากขึ้นเท่านั้น อีกเรื่องที่สำคัญคือการระบุ วันเดือน ปี เกิด ทำให้เด็ก ๆ วัยรุ่นที่มีอายุน้อย ๆ ก็จะสามารถถูกล่อลวงได้ง่ายและเป็นจุดที่มิจฉาชีพสนใจ
การใช้ Social Network อย่างปลอดภัย
- ไม่ควร post ข้อความที่ชี้ชวนให้มิจฉาชีพเข้าถึงเรา
เช่น บอกสถานะว่าไม่อยู่บ้านวันไหน เมื่อไหร่ เมื่อไรก็ตามที่จะเดินทางไปพักผ่อนไม่ว่าไกลแค่ไหน ก็ไม่ควรบอกข้อมูลล่วงหน้า ซึ่งอาจทำให้ผู้ไม่หวังดีอาจวางแผนมาทำร้ายบุคคล หรืออาจวางแผนมาขโมยทรัพย์สินเราได้ และถือเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจให้มิจฉาชีพที่ไม่หวังดีกับเราติดตามพฤติกรรมของเราได้
- ไม่ควร post หรือเผยแพร่ข้อความ รูปภาพ วีดีโอที่ทำให้ผุ้อื่นเสียหาย
เช่น ภาพหลุด คลิปหลุด หรือโพสรูปภาพที่สื่อถึงสิ่งอบายมุขต่างๆ ไม่ควรใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด เสียดสี ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม รวมทั้งไม่ควรโพสต์รูปภาพ ภาพถ่าย วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร ลงใน Social Network
- ไม่ควรเผยแพร่ข้อมูลทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นส่วนตัว หรือที่ทำงาน
เรื่องเงินทองถือเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญ ไม่ว่าใครก็ต้องการโดยเฉพาะผู้ที่ไม่หวังดี ดังนั้นข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินเงินทอง ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมการเงินของตัวเอง หรือที่ทำงานก็ตาม จึงไม่ควรเปิดเผยสู่สาธารณะ เพราะอาจจะนำภัยร้ายมาสู่ตัวเองได้
- ไม่ควรไว้ใจหรือเชื่อใจคนที่รุ้จักผ่านอินเทอเน็ต
เนื่องจากมีตัวอย่างการที่โดนล่อลวงผ่านการรุ้จักผ่าน Social Network หรือถูกหลอกเรื่องการซื้อขายผ่าน internet ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อของคุณ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่บ้าน หรือชื่อสถานศึกษาให้กับคนที่ไม่รู้จักหรือการไว้ใจ เชื่อใจคนแปลกหน้าที่รู้จักกันผ่านอินแทอร์เน็ตอาจเป็นอันตรายได้ เพราะอาจถูกหลอก หรือล่อลวงไปทำอันตรายได้ ดังนั้นไม่ควรไว้ใจบุคคลที่รู้จักทาง Social Network

ที่มา : http://www.acn.ac.th/articles/mod/forum/discuss.php?d=7
ที่มาของรูปภาพ : http://www.thai-fb.com/2011/09/blacklist-app-facebook/